Monday, April 23, 2018

Red light #danwoo

Red light

(Kang Daniel x Park Woojin)





             เพื่อนของพวกเขาคงไม่ได้สังเกตหรอกว่ามีหนึ่งคนหรือสองคนในกลุ่มหายไป ถ้าให้ว่ากันตามตรง ถึงจะหายหัวกันไปทั้งกลุ่ม ก็คงไม่มีใครสนใจใครด้วยซ้ำ พวกเขามีอุดมการณ์แน่วแน่ไปในทิศทางเดียวกัน ‘ก่อนเที่ยงคืนมาด้วยกัน หลังจากนั้นกลับคนละทาง’ พอถึงจุดที่ไฟในคลับสว่างโร่ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายตัวใครตัวมัน ขึ้นอยู่กับความสามารถหรือไม่ก็ระดับน้ำเมาในกระแสเลือด ว่าจะได้เอาหัวจมหมอนที่เตียงตัวเองเหงาๆ  หรือประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่ขาที่หิ้วกลับไปได้สักคน
            แดเนียลเชิดหน้าขึ้น แอลกฮอลล์และกัญชาทำให้ร่างกายเขาจั๊กจี้ ไฟสีแดงจากหลอดไฟนีออนอาบไล้เคลือบสีทั่วเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าหินอ่อนและพื้นกระเบื้อง รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องล้างรูปหรือไม่ก็ฉากฆาตกรรมในหนังโรคจิตสักเรื่อง ความคิดล่องลอยไม่เป็นรูปเป็นร่าง ในหัวฟุ้งเบลอเหมือนหมอก แต่อย่างน้อยห้วงคิดหนึ่งที่คว้าจับได้ก่อนจะลิดรอนหนีออกตามซอกนิ้วเหมือนกลุ่มควัน คือความคิดที่ว่า--เขาล็อคประตูหรือยังนะ?           
            “อา...”
            รสนิยมของกลุ่มพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน อย่างน้อยก็เลือกมาคลับที่มีสไตล์ในการตกแต่งภายในที่สวยไม่หยอก แดเนียลชอบแสงไฟนีออนเสมอ มันมีเสน่ห์ลึกลับบอกไม่ถูก ที่นี่คงคอนเซปท์ถึงขนาดติดมันไว้ในห้องน้ำ แดเนียลมองมือตัวเองที่อาบไล้แสงไฟ สวยดี แต่สีแดงจัดนี่มาจากแสงไฟหรือกระจกตาของเขาเองก็เริ่มจะไม่แน่ใจเหมือนกัน ที่แน่ๆ คือภายในเขายิ่งรู้สึกวาบวามจากวิวภาพ เหมือนสีแดงกระตุ้นให้ทุกอย่างทวีเร่าร้อนขึ้นไป รุนแรงขึ้นไป

            พวกเขาบอกว่าอย่ามีเซ็กส์ตอนเมามายล่ะเพื่อนเอ๋ย ถ้าไม่อยากตื่นขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘กูทำบ้าอะไรลงไป’ ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่อย่างน้อยแดเนียลก็มั่นใจว่าเขาไม่มีทางเสียใจกับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตอนนี้แน่ อย่างน้อยถ้าคนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าตอนนี้คือพัคอูจินอ่ะนะ เขาว่ามันก็โอเค ...ถ้าตาเขาไม่ได้มองผิด เดี๋ยวนะ นี่พัคอูจินหรือเปล่--
            “ซี้ด แม่ง..”
            พัคอูจินแน่ เก่งขนาดนี้มีพัคอูจินคนเดียว
            พวกเขาโชคดีที่ตอนเข้ามาไม่มีคนเมากอดโถส้วมอยู่ในห้องน้ำ ไม่มีคนปลดทุกข์ ไม่มีสิงห์อมควันกำลังสูบบุหรี่ ไม่มีใครเลย เป้ากางเกงของเขาคับตึงจนเห็นเป็นรูปร่าง จากแรงเสียดสีบดเบียดที่ต่อเนื่องมาจากบนฟลอร์เต้น สุดท้ายก็ฉุดกระชากลากถูกันมาจนถึงจุดๆ นี้จนได้
            แดเนียลเอนตัวพิงกับอ่างล่างหน้า เขาหลุบสายตามอง กลุ่มผมสีเข้มของคนเบื้องล่างถูกอาบไล้ด้วยแสงไฟจนดูไม่ออกว่าเป็นสีอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไฟมันแดงมาก ก็คงเป็นเขาที่เมาเกินไป
            แรงดูดแรงๆ และความอ่อนนุ่มที่ปาดไล้ทำเอาต้นขาเขากระตุก แดเนียลสบถ ความรู้สึกรุนแรงพุ่งจี๊ดแล่นทิ่มเข้าสมองเหมือนคนจี้ไฟฟ้า ในเวลาแบบนี้ความรู้สึกของเขาไวขึ้นหลายเท่า ชนิดที่แรงข่วนเบาๆ ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนแส้ ยิ่งเจอชั้นเชิงยอดเยี่ยมของอีกคนเข้าไปแบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เขาสุขสมจนรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก
            มือใหญ่ของเขาสอดเข้าที่กลุ่มผมของคนที่สาละวนอยู่กลางกาย ขบกราม หยัดสะโพกสวนอย่างอดไม่ได้ ดวงตาเฉี่ยวของอีกคนมองสบขึ้นมาทั้งส่วนนั้นยังอยู่ในปาก เจ้าตัวไม่สำลักด้วยซ้ำ เชี่ยวชาญอะไรอย่างนี้
            คังแดเนียลสูดปาก เขาป่ายมือตบบนกระเป๋ากางเกงที่ร่นลง ควักหาโทรศัพท์หยิบออกมาเปิดกล้อง คงจะดีถ้าจะมีภาพประทับใจเหล่านี้เก็บไว้ดู แม่เจ้าโว้ย แสงไฟชวนฟุ้งฝัน ออรัล คู่ขาสุดเซ็กซี่ เขาจะมีโอกาสพบเจอทั้งหมดนี้รวมกันได้อีกที่ไหน
            “พี่ถ่ายเหรอ” อีกฝ่ายละออกมาพูด เสียงแหบต่ำเกือบจะกลืนไปกับเสียงดนตรีที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องประตู เขาหงุดหงิดเล็กน้อยกับความรู้สึกที่หยุดชะงัก
            “กล้องมือถือพี่ห่วยน่า” เขาบอก “ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร”
            เขาไม่ได้โกหกเสียทีเดียว ภาพในจอโทรศัพท์มืดลงไปอีกระดับจนเกือบมองไม่ชัด แต่แสงไฟและเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังคุกเข่ายังทำให้องค์ประกอบของภาพดูอีโรติค ให้ตายเหอะ นี่มันงานศิลปะ
            อูจินคงขี้เกียจเถียง ไม่ก็เมาเกินไป เจ้าตัวอ้าปากอีกครั้ง แดเนียลผ่อนลมหายใจ ขยับกล้องหามุมที่พอดี ปลายลิ้น ทรงผมยุ่ง ดวงตาช้อนมองสบ คุกเข่าท่ามกลางแสงไฟนีออนราวกับหลุดออกมาจากฝันฟุ้งเบลอ
            วู้ว ฮอตเสียไม่มี
            “อืม... แลบลิ้นออกมา อย่างนั้นแหละ”

************
            เคาน์เตอร์หินอ่อนเย็นเยียบ ถือว่าเขาใส่ใจอีกคนมากพอที่จะไม่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอีกคนออกก่อนจะกดร่างอีกฝ่ายลงบนนั้น หรือความจริงก็คือ พวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาถอดเสื้อผ้าหรอก อาจจะก็ได้ถ้าที่นี่เป็นห้องสูทโรงแรม ไม่ใช่ห้องน้ำสาธารณะในคลับแบบนี้
            แดเนียลขยับสะโพกเชื่องช้าในทีแรก มองอีกฝ่ายที่ค้อมกายลงวางแขนกับอ่าง เขาจงใจไม่เร่งจังหวะ แต่กลับกระทั้นหนักแน่น จนคนเบื้องหน้าไถลตัวโยน หอบเอาอากาศเข้าปอดเหมือนจะขาดใจ
            “อะ..อึก”   
            เขาสอดมือเข้าใต้เอวให้จนแผ่นหลังอีกฝ่ายกลับมาแนบอก กอดรัดและกดร่างอูจินเข้าไปใกล้กระจกขึ้นจนแทบจะชิด ให้อีกฝ่ายได้สบตากับตัวเองชัดๆ ให้ได้เห็นสีหน้าตัวเองชัดๆ
            “ดูนายสิ” แดเนียลกระซิบ มองภาพสะท้อนทุกอย่างในกระจก สีแดงยังคงทำหน้าที่บิดเบือนให้ทุกอย่างเป็นดั่งภาพเสมือน อูจินเหมือนหลุดเข้าไปในภวังค์ในระหว่างที่เขาบดเบียดแทรกลึกเข้าในกาย ข้างในตัวช่างรัดรึงและร้อนฉ่า เสียงครางในลำคอได้ยินชัดแม้จะเบาบาง เขาอดไม่ได้ที่จะพูด “แน่นจัง ...ชอบพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
            อูจินสำลักก้อนหัวเราะ เหมือนเพิ่งได้ยินอะไรที่ตลกมาก เขาถึงกับเสียเซลฟ์ไปชั่วขณะหนึ่ง นั่นน่าหมั่นไส้นะ
            เขาอ้อยอิ่งเชื่องช้าอยู่ไม่นาน อารมณ์ที่คั่งค้างสะสมมาตั้งแต่บนฟลอร์เต้นก็ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง สะโพกกระทบบั้นท้ายหนั่นแน่น มือเขากดแผ่นหลังอีกฝ่ายลงก่อนยึดเอวไว้เป็นที่มั่น ปลายนิ้วอีกฝ่ายคว้าจับขอบเคาน์เตอร์แน่นก่อนสบถคำหยาบออกมา
            เสียงเพลงดังทะลุผนังปูนและประตูเข้ามาถึงในห้อง ดังฟังไม่ถนัดเหมือนพวกเขากำลังอยู่ในกล่อง ข้างนอกนั่นคงกำลังเต้น ส่วนเขากระแทกกระทั้นกลั่นแกล้ง อีกคนสบถครางแข่งเสียงดนตรี
            แดเนียลรู้ว่าเสียงแหบกระเส่าของอูจินไม่ดังพอให้คนด้านนอกรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน แต่มือใหญ่ๆ ของเขาก็ยังเลือกเอื้อมคว้าทับริมฝีปากนั่นเอาไว้ ดึงอีกคนขึ้นมาแนบชิดอีกครั้งก่อนส่วนล่างจะเร่งจังหวะถี่เร็ว สัญชาตญาณบางอย่างเขายิ่งลุกโชนยามเสียงร้องนั้นดังอึกอักใต้ฝ่ามือของเขา แดเนียลครางต่ำในลำคอ กระซิบบอกว่าร่างกายของพัคอูจินทำให้รู้สึกดีแค่ไหน เขาละสายตาจากภาพในกระจกไม่ได้สักเสี้ยววินาที เพราะดูนั่นสิ เหมือนหนังอาร์ตอีโรติคสักฉากที่พวกเขากำลังแสดง สีหน้าและแววตาที่มองสบกลับมาจากเงาในกระจกนั่นเร้าอารมณ์ชวนหลงใหลเหลือเกิน
            กึง!
            ราวกับเวลาถูกแช่แข็ง จังหวะหยุดชะงัก ดวงตาของพัคอูจินเบิกโพลง คังแดเนียลเหลียวไปมองต้นตอของเสียง บานประตูสั่นเล็กน้อยจากการที่คนด้านนอกพยายามจะเปิดมัน คำถามในหัวตอนต้นได้รับการแถลงไข โชคดีที่อย่างน้อยเขาก็ล็อคประตูแล้ว
            พวกเขาหยุดนิ่งแล้วปล่อยให้เสียงเพลงอื้ออึงเล็ดลอดใต้ประตูเข้ามาเติมเต็มความเงียบในห้อง ยาวนานเหมือนตลอดกาล เขาแทบจะได้เสียงหัวใจของพัคอูจินเต้นถี่รัวอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่คังแดเนียลหลุดขำพรืดออกมา “ทำไม ตื่นเต้นเหรอ”
            ก่อนที่อีกคนจะได้เอ่ยปากด่าว่าอะไร เขาโน้มกายลงกระซิบชิดลงกระซิบชิดริมใบหูก่อนจะเอียงหน้าจูบแรงๆ “ดูเหมือนนายชอบนะ รัดแน่นเชียว”
            แดเนียลขยับอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผ่อนจังหวะช้าน่าทรมานจนอีกคนต้องเป็นฝ่ายบดเบียดสะโพกเข้าหาเสียเอง เขามองภาพนั้นแล้วได้แต่ผิวปาก “จะเป็นยังไงนะถ้ามีคนมาเห็นนายในสภาพนี้”
            “รีบเถอะ” อีกฝ่ายตัดบท ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผ่านกระจก “เดี๋ยวพวกนั้นต้องไปเรียกคนมาไขแน่ๆ”
            “ทำไงดี พี่เป็นคนเสร็จช้า”
            อูจินแค่นหัวเราะอีกครั้ง พิงหัวกับกระจกก่อนหลับตาลงเหมือนระอา แดเนียลยิ้มในตอนที่อีกคนเอี้ยวหน้ามาหา ป่ายมือเข้าที่กรามของเขาเพื่อรั้งเข้าไปจูบ ส่งปลายลิ้นกระหวัดไล้หยอกล้อ ก่อนจะเผยเขี้ยวคมขบลงในตอนสุดท้าย ทิ้งรสสนิมเหล็กเฝื่อนของเลือดในปากเขาจางๆ
            อูจินสบตาเขา ที่แววตาดูน่าหลงใหลขนาดนี้เป็นเพราะแสงไฟหรือเปล่านะ?
            “แรงๆ”
            แดเนียลยิ้ม
            นั่นช่วยได้มากนะ พูดตรงๆ
            อูจินส่งมือค้ำกระจกไว้ก่อนที่หน้าตัวเองจะถลาชนจากแรงส่งด้านหลังที่รุนแรงถี่กระทั้นไม่ทันตั้งตัว งับปากกักกลั้นเสียงไว้ในลำคอ แดเนียลเอื้อมมือไปทาบทับริมฝีปากอีกคนเอาไว้ราวกับรู้ จนในช่วงที่เกือบถึงฝั่งฝันสุดท้าย ภาพในกระจกก็สะท้อนภาพฝ่ามือที่เลื่อนลงโอบรอบลำคอ นิ้วหัวแม่มือกดจมลงเบาๆ ส่งผลให้ข้างในยิ่งตอดรัดจนหัวหมุน เขารู้ดีว่าอะไรที่อูจินชอบ
             
*****

            พวกเขาออกมาจากที่นั่นพร้อมกับได้รับสายตา ‘อ๋อ พวกแกนี่เอง’ มาตามทางโถงทางเดินหน้าห้องน้ำบ้างประปราย แต่ใครสนกันล่ะ ไม่เอาน่า อย่างกับว่าเรื่องพรรค์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ พนันเลยว่าถ้าพวกนั้นกลับมาใหม่พรุ่งนี้ก็จะยังคงเจอคนมีเซ็กส์ในห้องน้ำคลับอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฟนีออนเลยนะ บอกเลยว่าถ้าไม่เคยก็อยากจะแนะนำ
            อย่างน้อยคลิปกับรูปถ่ายในโทรศัพท์ของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดี
            “สร่างแล้วหรือไง” แดเนียลหันไปถามคนที่กำลังดื่มน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนคนกระหายเจอโอเอซิสแห่งแรก พวกเขาปักหลักอยู่ริมถนนแถวนั้น ต่างสลับกันมองไฟหน้ารถที่แล่นผ่านไป ตอนนี้น่าจะประมาณตีหนึ่งกว่าได้ ถนนเงียบแต่ก็ยังดูไม่หมดหวังเกินไปในการมองหาแท็กซี่สักคัน
            “เออ” อูจินกลืนน้ำก่อนจะปิดฝา โยนให้เขาที่รับมันไว้ได้พอดิบพอดี “คงต้องห้ามมาที่นี่อีกสักเดือนสองเดือน”
            “ไม่ค่อยมีคนเห็นหรอกน่า มีแต่คนเมาที่พรุ่งนี้ก็ลืมแล้ว”
            “ผมจำ”
            “แหงล่ะ” แดเนียลไหวไหล่ “ถ้าลืมก็เสียดายแย่”
            อูจินกลอกตา ถอยตัวไปกอดอกพิงเสาไฟเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ท่าทางเหนื่อยมาก ก็สมควรอยู่หรอก
            รถคันหนึ่งแล่นผ่านพวกเขาไปอีกครั้ง ยังคงไม่ใช่แท็กซี่
            “ทีหลังไม่เอาแล้วนะ” อีกคนพูดขึ้น ดวงตาเฉี่ยวเหลือบมองเขา “หัวใจจะวาย”
            แดเนียลหัวเราะ รอยยิ้มไม่เข้ากับสายตาที่หันมองเหมือนรู้ทัน
            “คราวก่อนที่ห้องลองเสื้อก็พูดแบบนี้”

#edenfic