Red
light
(Kang
Daniel x Park Woojin)
เพื่อนของพวกเขาคงไม่ได้สังเกตหรอกว่ามีหนึ่งคนหรือสองคนในกลุ่มหายไป
ถ้าให้ว่ากันตามตรง ถึงจะหายหัวกันไปทั้งกลุ่ม ก็คงไม่มีใครสนใจใครด้วยซ้ำ
พวกเขามีอุดมการณ์แน่วแน่ไปในทิศทางเดียวกัน ‘ก่อนเที่ยงคืนมาด้วยกัน
หลังจากนั้นกลับคนละทาง’ พอถึงจุดที่ไฟในคลับสว่างโร่ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายตัวใครตัวมัน
ขึ้นอยู่กับความสามารถหรือไม่ก็ระดับน้ำเมาในกระแสเลือด ว่าจะได้เอาหัวจมหมอนที่เตียงตัวเองเหงาๆ
หรือประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่ขาที่หิ้วกลับไปได้สักคน
แดเนียลเชิดหน้าขึ้น
แอลกฮอลล์และกัญชาทำให้ร่างกายเขาจั๊กจี้ ไฟสีแดงจากหลอดไฟนีออนอาบไล้เคลือบสีทั่วเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าหินอ่อนและพื้นกระเบื้อง
รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องล้างรูปหรือไม่ก็ฉากฆาตกรรมในหนังโรคจิตสักเรื่อง ความคิดล่องลอยไม่เป็นรูปเป็นร่าง
ในหัวฟุ้งเบลอเหมือนหมอก แต่อย่างน้อยห้วงคิดหนึ่งที่คว้าจับได้ก่อนจะลิดรอนหนีออกตามซอกนิ้วเหมือนกลุ่มควัน
คือความคิดที่ว่า--เขาล็อคประตูหรือยังนะ?
“อา...”
รสนิยมของกลุ่มพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน
อย่างน้อยก็เลือกมาคลับที่มีสไตล์ในการตกแต่งภายในที่สวยไม่หยอก
แดเนียลชอบแสงไฟนีออนเสมอ มันมีเสน่ห์ลึกลับบอกไม่ถูก ที่นี่คงคอนเซปท์ถึงขนาดติดมันไว้ในห้องน้ำ
แดเนียลมองมือตัวเองที่อาบไล้แสงไฟ สวยดี แต่สีแดงจัดนี่มาจากแสงไฟหรือกระจกตาของเขาเองก็เริ่มจะไม่แน่ใจเหมือนกัน
ที่แน่ๆ คือภายในเขายิ่งรู้สึกวาบวามจากวิวภาพ เหมือนสีแดงกระตุ้นให้ทุกอย่างทวีเร่าร้อนขึ้นไป
รุนแรงขึ้นไป
พวกเขาบอกว่าอย่ามีเซ็กส์ตอนเมามายล่ะเพื่อนเอ๋ย
ถ้าไม่อยากตื่นขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘กูทำบ้าอะไรลงไป’ ในเช้าวันรุ่งขึ้น
แต่อย่างน้อยแดเนียลก็มั่นใจว่าเขาไม่มีทางเสียใจกับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตอนนี้แน่
อย่างน้อยถ้าคนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าตอนนี้คือพัคอูจินอ่ะนะ เขาว่ามันก็โอเค ...ถ้าตาเขาไม่ได้มองผิด
เดี๋ยวนะ นี่พัคอูจินหรือเปล่--
“ซี้ด
แม่ง..”
พัคอูจินแน่
เก่งขนาดนี้มีพัคอูจินคนเดียว
พวกเขาโชคดีที่ตอนเข้ามาไม่มีคนเมากอดโถส้วมอยู่ในห้องน้ำ ไม่มีคนปลดทุกข์
ไม่มีสิงห์อมควันกำลังสูบบุหรี่ ไม่มีใครเลย เป้ากางเกงของเขาคับตึงจนเห็นเป็นรูปร่าง
จากแรงเสียดสีบดเบียดที่ต่อเนื่องมาจากบนฟลอร์เต้น
สุดท้ายก็ฉุดกระชากลากถูกันมาจนถึงจุดๆ นี้จนได้
แดเนียลเอนตัวพิงกับอ่างล่างหน้า
เขาหลุบสายตามอง กลุ่มผมสีเข้มของคนเบื้องล่างถูกอาบไล้ด้วยแสงไฟจนดูไม่ออกว่าเป็นสีอะไร
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไฟมันแดงมาก ก็คงเป็นเขาที่เมาเกินไป
แรงดูดแรงๆ
และความอ่อนนุ่มที่ปาดไล้ทำเอาต้นขาเขากระตุก แดเนียลสบถ
ความรู้สึกรุนแรงพุ่งจี๊ดแล่นทิ่มเข้าสมองเหมือนคนจี้ไฟฟ้า ในเวลาแบบนี้ความรู้สึกของเขาไวขึ้นหลายเท่า
ชนิดที่แรงข่วนเบาๆ ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนแส้ ยิ่งเจอชั้นเชิงยอดเยี่ยมของอีกคนเข้าไปแบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่
เขาสุขสมจนรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก
มือใหญ่ของเขาสอดเข้าที่กลุ่มผมของคนที่สาละวนอยู่กลางกาย
ขบกราม หยัดสะโพกสวนอย่างอดไม่ได้ ดวงตาเฉี่ยวของอีกคนมองสบขึ้นมาทั้งส่วนนั้นยังอยู่ในปาก
เจ้าตัวไม่สำลักด้วยซ้ำ เชี่ยวชาญอะไรอย่างนี้
คังแดเนียลสูดปาก
เขาป่ายมือตบบนกระเป๋ากางเกงที่ร่นลง ควักหาโทรศัพท์หยิบออกมาเปิดกล้อง
คงจะดีถ้าจะมีภาพประทับใจเหล่านี้เก็บไว้ดู แม่เจ้าโว้ย แสงไฟชวนฟุ้งฝัน ออรัล คู่ขาสุดเซ็กซี่
เขาจะมีโอกาสพบเจอทั้งหมดนี้รวมกันได้อีกที่ไหน
“พี่ถ่ายเหรอ”
อีกฝ่ายละออกมาพูด เสียงแหบต่ำเกือบจะกลืนไปกับเสียงดนตรีที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องประตู
เขาหงุดหงิดเล็กน้อยกับความรู้สึกที่หยุดชะงัก
“กล้องมือถือพี่ห่วยน่า”
เขาบอก “ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร”
เขาไม่ได้โกหกเสียทีเดียว
ภาพในจอโทรศัพท์มืดลงไปอีกระดับจนเกือบมองไม่ชัด แต่แสงไฟและเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังคุกเข่ายังทำให้องค์ประกอบของภาพดูอีโรติค
ให้ตายเหอะ นี่มันงานศิลปะ
อูจินคงขี้เกียจเถียง
ไม่ก็เมาเกินไป เจ้าตัวอ้าปากอีกครั้ง แดเนียลผ่อนลมหายใจ ขยับกล้องหามุมที่พอดี ปลายลิ้น
ทรงผมยุ่ง ดวงตาช้อนมองสบ คุกเข่าท่ามกลางแสงไฟนีออนราวกับหลุดออกมาจากฝันฟุ้งเบลอ
วู้ว
ฮอตเสียไม่มี
“อืม...
แลบลิ้นออกมา อย่างนั้นแหละ”
************
เคาน์เตอร์หินอ่อนเย็นเยียบ
ถือว่าเขาใส่ใจอีกคนมากพอที่จะไม่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอีกคนออกก่อนจะกดร่างอีกฝ่ายลงบนนั้น
หรือความจริงก็คือ พวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาถอดเสื้อผ้าหรอก อาจจะก็ได้ถ้าที่นี่เป็นห้องสูทโรงแรม
ไม่ใช่ห้องน้ำสาธารณะในคลับแบบนี้
แดเนียลขยับสะโพกเชื่องช้าในทีแรก
มองอีกฝ่ายที่ค้อมกายลงวางแขนกับอ่าง เขาจงใจไม่เร่งจังหวะ แต่กลับกระทั้นหนักแน่น
จนคนเบื้องหน้าไถลตัวโยน หอบเอาอากาศเข้าปอดเหมือนจะขาดใจ
“อะ..อึก”
เขาสอดมือเข้าใต้เอวให้จนแผ่นหลังอีกฝ่ายกลับมาแนบอก
กอดรัดและกดร่างอูจินเข้าไปใกล้กระจกขึ้นจนแทบจะชิด ให้อีกฝ่ายได้สบตากับตัวเองชัดๆ
ให้ได้เห็นสีหน้าตัวเองชัดๆ
“ดูนายสิ”
แดเนียลกระซิบ มองภาพสะท้อนทุกอย่างในกระจก สีแดงยังคงทำหน้าที่บิดเบือนให้ทุกอย่างเป็นดั่งภาพเสมือน
อูจินเหมือนหลุดเข้าไปในภวังค์ในระหว่างที่เขาบดเบียดแทรกลึกเข้าในกาย ข้างในตัวช่างรัดรึงและร้อนฉ่า
เสียงครางในลำคอได้ยินชัดแม้จะเบาบาง เขาอดไม่ได้ที่จะพูด “แน่นจัง ...ชอบพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
อูจินสำลักก้อนหัวเราะ
เหมือนเพิ่งได้ยินอะไรที่ตลกมาก เขาถึงกับเสียเซลฟ์ไปชั่วขณะหนึ่ง
นั่นน่าหมั่นไส้นะ
เขาอ้อยอิ่งเชื่องช้าอยู่ไม่นาน
อารมณ์ที่คั่งค้างสะสมมาตั้งแต่บนฟลอร์เต้นก็ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง
สะโพกกระทบบั้นท้ายหนั่นแน่น มือเขากดแผ่นหลังอีกฝ่ายลงก่อนยึดเอวไว้เป็นที่มั่น
ปลายนิ้วอีกฝ่ายคว้าจับขอบเคาน์เตอร์แน่นก่อนสบถคำหยาบออกมา
เสียงเพลงดังทะลุผนังปูนและประตูเข้ามาถึงในห้อง
ดังฟังไม่ถนัดเหมือนพวกเขากำลังอยู่ในกล่อง ข้างนอกนั่นคงกำลังเต้น ส่วนเขากระแทกกระทั้นกลั่นแกล้ง
อีกคนสบถครางแข่งเสียงดนตรี
แดเนียลรู้ว่าเสียงแหบกระเส่าของอูจินไม่ดังพอให้คนด้านนอกรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน
แต่มือใหญ่ๆ ของเขาก็ยังเลือกเอื้อมคว้าทับริมฝีปากนั่นเอาไว้ ดึงอีกคนขึ้นมาแนบชิดอีกครั้งก่อนส่วนล่างจะเร่งจังหวะถี่เร็ว
สัญชาตญาณบางอย่างเขายิ่งลุกโชนยามเสียงร้องนั้นดังอึกอักใต้ฝ่ามือของเขา แดเนียลครางต่ำในลำคอ
กระซิบบอกว่าร่างกายของพัคอูจินทำให้รู้สึกดีแค่ไหน เขาละสายตาจากภาพในกระจกไม่ได้สักเสี้ยววินาที
เพราะดูนั่นสิ เหมือนหนังอาร์ตอีโรติคสักฉากที่พวกเขากำลังแสดง สีหน้าและแววตาที่มองสบกลับมาจากเงาในกระจกนั่นเร้าอารมณ์ชวนหลงใหลเหลือเกิน
กึง!
ราวกับเวลาถูกแช่แข็ง
จังหวะหยุดชะงัก ดวงตาของพัคอูจินเบิกโพลง คังแดเนียลเหลียวไปมองต้นตอของเสียง
บานประตูสั่นเล็กน้อยจากการที่คนด้านนอกพยายามจะเปิดมัน คำถามในหัวตอนต้นได้รับการแถลงไข
โชคดีที่อย่างน้อยเขาก็ล็อคประตูแล้ว
พวกเขาหยุดนิ่งแล้วปล่อยให้เสียงเพลงอื้ออึงเล็ดลอดใต้ประตูเข้ามาเติมเต็มความเงียบในห้อง
ยาวนานเหมือนตลอดกาล เขาแทบจะได้เสียงหัวใจของพัคอูจินเต้นถี่รัวอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่คังแดเนียลหลุดขำพรืดออกมา
“ทำไม ตื่นเต้นเหรอ”
ก่อนที่อีกคนจะได้เอ่ยปากด่าว่าอะไร
เขาโน้มกายลงกระซิบชิดลงกระซิบชิดริมใบหูก่อนจะเอียงหน้าจูบแรงๆ “ดูเหมือนนายชอบนะ
รัดแน่นเชียว”
แดเนียลขยับอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ผ่อนจังหวะช้าน่าทรมานจนอีกคนต้องเป็นฝ่ายบดเบียดสะโพกเข้าหาเสียเอง เขามองภาพนั้นแล้วได้แต่ผิวปาก
“จะเป็นยังไงนะถ้ามีคนมาเห็นนายในสภาพนี้”
“รีบเถอะ”
อีกฝ่ายตัดบท ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผ่านกระจก “เดี๋ยวพวกนั้นต้องไปเรียกคนมาไขแน่ๆ”
“ทำไงดี
พี่เป็นคนเสร็จช้า”
อูจินแค่นหัวเราะอีกครั้ง
พิงหัวกับกระจกก่อนหลับตาลงเหมือนระอา แดเนียลยิ้มในตอนที่อีกคนเอี้ยวหน้ามาหา ป่ายมือเข้าที่กรามของเขาเพื่อรั้งเข้าไปจูบ
ส่งปลายลิ้นกระหวัดไล้หยอกล้อ ก่อนจะเผยเขี้ยวคมขบลงในตอนสุดท้าย ทิ้งรสสนิมเหล็กเฝื่อนของเลือดในปากเขาจางๆ
อูจินสบตาเขา
ที่แววตาดูน่าหลงใหลขนาดนี้เป็นเพราะแสงไฟหรือเปล่านะ?
“แรงๆ”
แดเนียลยิ้ม
นั่นช่วยได้มากนะ
พูดตรงๆ
อูจินส่งมือค้ำกระจกไว้ก่อนที่หน้าตัวเองจะถลาชนจากแรงส่งด้านหลังที่รุนแรงถี่กระทั้นไม่ทันตั้งตัว
งับปากกักกลั้นเสียงไว้ในลำคอ แดเนียลเอื้อมมือไปทาบทับริมฝีปากอีกคนเอาไว้ราวกับรู้
จนในช่วงที่เกือบถึงฝั่งฝันสุดท้าย ภาพในกระจกก็สะท้อนภาพฝ่ามือที่เลื่อนลงโอบรอบลำคอ
นิ้วหัวแม่มือกดจมลงเบาๆ ส่งผลให้ข้างในยิ่งตอดรัดจนหัวหมุน เขารู้ดีว่าอะไรที่อูจินชอบ
*****
พวกเขาออกมาจากที่นั่นพร้อมกับได้รับสายตา
‘อ๋อ พวกแกนี่เอง’ มาตามทางโถงทางเดินหน้าห้องน้ำบ้างประปราย แต่ใครสนกันล่ะ ไม่เอาน่า
อย่างกับว่าเรื่องพรรค์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ พนันเลยว่าถ้าพวกนั้นกลับมาใหม่พรุ่งนี้ก็จะยังคงเจอคนมีเซ็กส์ในห้องน้ำคลับอยู่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฟนีออนเลยนะ บอกเลยว่าถ้าไม่เคยก็อยากจะแนะนำ
อย่างน้อยคลิปกับรูปถ่ายในโทรศัพท์ของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดี
“สร่างแล้วหรือไง”
แดเนียลหันไปถามคนที่กำลังดื่มน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนคนกระหายเจอโอเอซิสแห่งแรก
พวกเขาปักหลักอยู่ริมถนนแถวนั้น ต่างสลับกันมองไฟหน้ารถที่แล่นผ่านไป ตอนนี้น่าจะประมาณตีหนึ่งกว่าได้
ถนนเงียบแต่ก็ยังดูไม่หมดหวังเกินไปในการมองหาแท็กซี่สักคัน
“เออ”
อูจินกลืนน้ำก่อนจะปิดฝา โยนให้เขาที่รับมันไว้ได้พอดิบพอดี “คงต้องห้ามมาที่นี่อีกสักเดือนสองเดือน”
“ไม่ค่อยมีคนเห็นหรอกน่า
มีแต่คนเมาที่พรุ่งนี้ก็ลืมแล้ว”
“ผมจำ”
“แหงล่ะ”
แดเนียลไหวไหล่ “ถ้าลืมก็เสียดายแย่”
อูจินกลอกตา
ถอยตัวไปกอดอกพิงเสาไฟเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ท่าทางเหนื่อยมาก
ก็สมควรอยู่หรอก
รถคันหนึ่งแล่นผ่านพวกเขาไปอีกครั้ง
ยังคงไม่ใช่แท็กซี่
“ทีหลังไม่เอาแล้วนะ”
อีกคนพูดขึ้น ดวงตาเฉี่ยวเหลือบมองเขา “หัวใจจะวาย”
แดเนียลหัวเราะ
รอยยิ้มไม่เข้ากับสายตาที่หันมองเหมือนรู้ทัน
“คราวก่อนที่ห้องลองเสื้อก็พูดแบบนี้”
#edenfic
อมก นี่เค้าลองกันไปกี่ที่แล้วเนี่ย หัวใจจะวาย
ReplyDelete